วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

แพทย์ (doctor)




อาชีพแพทย์คืออะไร
               
               แพทย์ คือ ผู้ตรวจค้นโรคและความผิดปกติของร่างกาย จิตใจ สั่งยา ให้การรักษา มีบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบต่อสุขภาพของประชาชน ทั้งในด้านการส่งเสริม สนับสนุน ป้องกัน รักษาโรค และฟื้นฟูสมรรถภาพ

ทำไมถึงอยากทำอาชีพนี้
            
          เพราะเป็นอาชีพที่ตรงกับลักษณะงานที่ชอบ เป็นอาชีพที่ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมารักษาคนไข้ให้กลับมาเป็นปกติ เป็นอาชีพที่มั่นคง มีเกียรติและรายได้ดี

ลักษณะการทำงานของอาชีพนี้


              แพทย์แบ่งออกเป็นหลากหลายแขนงมากตามอาการของโรค ซึ่งทุกแขนงมีความสำคัญเท่าเทียมกัน และมีจุดประสงค์หลักเดียวกัน คือการได้ใช้ความรู้ความสามารถรักษาคนไช้ให้หายขาดหรืออาการดีขึ้นจากเดิม โดยผ่านกระบวนการวินิจฉัยและหาหนทางการรักษา ซึ่งสิ่งที่ท้าทายที่สุดคือการรักษาชีวิตของคนไข้ให้ได้นานที่สุดไม่ว่าจะวิธีทางการแพทย์หรือในเรื่องของกำลังใจที่ให้คนไช้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข
Work process 
ขั้นตอนการทำงานของอาชีพหมอคือ 
  1. พูดคุยเพื่อสอบถามอาการของคนไข้ มีการตรวจเบื้องต้นว่าป่วยเป็นโรคอะไร 
  2. เมื่อทราบอาการแล้ว หากเป็นอาการป่วยที่สามารถรักษาได้ทันที  คุณหมอจะจ่ายยา และบอกถึงวิธีการที่คนไข้จะดูแลตัวเองหลังจากกลับบ้าน แต่หากเป็นอาการที่ต้องรักษาต่อก็จะส่งต่องานไปยังแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตามอาการนั้นๆ 
  3. หากเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญ ในตอนเช้าก็เดินจะตรวจดูอาการของคนไข้ในความดูแลทุกๆคนว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง 
  4. นำผลที่ได้มาวินิจฉัยเพื่อจะดำเนินการรักษาต่อในขั้นตอนต่อไป ซึ่งคนไข้บางรายอาจใช้เวลารักษานานหลายปีกว่าจะหายขาด 
  5. นอกจากนี้ก็จะมีการแบ่งตามหน้าที่ความรับผิดชอบของคุณหมอตามแผนกต่างๆซึ่งมีการทำงานที่ไม่เหมือนกัน คุณหมอที่มีหน้าที่ตรวจชิ้นเนื้อ ฉายรังสี  ผ่าตัด จ่ายยา การทำงานในแต่ละวันก็จะขึ้นอยู่กับว่าเป็นคุณหมอแผนกไหน   
  6. ยังมีในเรื่องของการเข้าเวร ที่ต้องทำงานเกินเวลาจากเดิม และ เหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจถูกเรียกตัวเข้ามาปฏิบัติหน้าที่นอกเวลางาน ซึ่งคุณหมอต้องมีความพร้อมเสมอ 
Career path/ความก้าวหน้าของสายอาชีพ 
             ความก้าวหน้าของอาชีพหมอจะมาจากอายุการทำงาน เพราะจะเป็นระบบเดียวกับข้าราชกาล คือมีการเลื่อนขั้นตาม ซี เมื่อมีอายุการทำงานและประสบการณ์มากขึ้น ตำแหน่งและหน้าที่รับผิดชอบก็จะเพิ่มมากขึ้น ทำให้สามารถรักษาโรครักษาและวินิจฉัยอาการที่ยากของคนไข้ได้ นอกจากนั้นยังจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องของวิชาการ คือ การเรียนต่อในระดับปริญญาโท และ เอก เพื่อเพิ่มเติมความรู้ในเชิงลึกของการรักษาในแขนงนั้นๆ   
บุคลิก นิสัยของคนที่เหมาะจะทำอาชีพนี้ 
  1. คุณหมอต้องเป็นคนใจเย็นเพราะต้องทำงานกับคนไข้ที่มีทั้งความกังวลใจไม่สบายใจ  คุณหมอจำเป็นต้องมีวิธีการพูดคุยและให้การรักษาอย่างเข้าใจมากที่สุด 
  2. มีน้ำใจเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี  มีจิตวิทยาในกรรักษาและการพูดเพื่อหาทางออกและสร้างความสบายใจให้กับคนไข้ 
  3. เป็นคนที่ชอบศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา เพราะมีโรคใหม่ๆ เทคโนโลยีและการรักษาใหม่ๆเกิดขึ้นตลอดเวลา 
  4. มีทักษะความรู้ที่ดีสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างดีมาก เพราะต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่คาดคิดอยู่ตลอดเวลา เช่นคนไข้ช๊อค การผ่าตัดมีการผิดพลาด เลือดไหลไม่หยุด ต้องมีคนที่มีสติและคิดหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา 
  5. ต้องมีความกล้าในทุกๆอย่าง กล้าตัดสินใจ กล้าลงมือทำ ไม่กลัวเข็ม ไม่กลัวเลือด อุปกรณ์การแพทย์ต่างๆหรืออวัยวะต่างๆในร่างกาย เพราะเป็นสิ่งที่เราต้องพบเจอในทุกๆวัน 
คุณค่าของอาชีพและผลตอบแทน
          
                อาชีพหมอกำเนิดขึ้นเป็นวิชาชีพแรกๆและมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นการเกิด   แก่ เจ็บ และ ตาย ต่างต้องอาศัยความรู้ความสามารถทางการแพทย์ทั้งสิ้นและวิชาชีพหมอก็ถูกพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆทั้งในเรื่องความรู้ความสามารถ เทคโนโลยีทางการแพทย์  การค้นคว้าวิธีการรักษาใหม่ๆ เพื่อให้ผู้ป่วยหายขาดจากอาการ เจ็บน้อยลง และย่อระยะเวลาในการรักษาให้สั้นลง วิธีการต่างๆก็เพื่อให้คนในสังคมไม่ทุกข์จากการมีโรคภัยไข้เจ็บ สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติจากการได้รับการรักษา โรคภัยเกิดขึ้นได้ทุกวันและเกิดขึ้นได้กับทุกคน อาชีพหมอจึงถือว่าเป็นอาชีพที่มีความสำคัญต่อสังคมเป็นอย่างมาก 
ผลตอบแทน 
               ในเรื่องของระบบเงินเดือนนั้นหากเป็นแพทย์ในโรงพยาบาลของรัฐ จะมีระดับเงินเดือนตามขั้นโดยข้าราชการพลเรือนมีระดับขั้นตั้งแต่ ซี 1 ถึง ซี 11 ซึ่งแต่ละระดับก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน   โดยแพทย์เริ่มต้นจะได้รับบรรจุเป็น ซี 4 ซึ่งมีขั้นเงินเดือน 8,190 บาท ในแต่ละซี จะมีขั้นเงินเดือนหลายๆขั้นเป็น 10 ขั้น เช่น ซี 1 มีขึ้นเงินเดือนต่ำสุดคือ 4,100 บาท สูงสุดคือ 7,260 บาท ซี 11 ขั้นต่ำสุดคือ 29,690บาท สูงสุดคือ 57,190 บาท ซึ่งตัวเลขต่างๆเหล่านี้เปลี่ยนแปลงได้ตลอด  ขึ้นอยู่กับระเบียบของก.พ. หรือคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำหรับคุณหมอถ้าไม่มีปัญหาอะไรทุกๆปีก็จะได้เลื่อนขึ้นเงินเดือน 1 ขั้น หรือ 2 ขั้นถ้ามีความสามารถ นอกจะนี้ยังมีการเลื่อนซีด้วย บรรจุครั้งแรกเป็นซี 4 แต่เป็นขั้นควบคือควบซี 5 และซี 6 ด้วย ถ้างทำงานครบ 2 ปีเต็ม จะถูกเลื่อนให้เป็นซี 5 โดยอัตโนมัติและถ้าทำงานต่อไปอีก 4 ปีก็จะได้เลื่อนไปเป็นซี  6 เห็นได้ว่าจะเลื่อนตำแหน่งและฐานเงินเดือนขึ้นไปเรื่อยๆตามอายุการทำงาน 
ทักษะความรู้และความสามารถ
               สาขาที่จะเรียนในคณะแพทย์ศาสตร์นั้น มีการเรียนการสอนที่แตกต่างกันตามสถาบัน แต่มีวิชาหลักที่เหมือนกันนั้นคือ  ปี 1-3 เรียน Basic science และ Basic medical science
Basic science คือเคมี ชีวะ ฟิสิกส์
Basic medical science เป็นวิชาแพทย์
  • behavior sci เป็นวิชาการจัดการ จิตวิตยา การวิจัย การเข้าใจคนไข้ 
  • anatomy กายวิภาค เป็นสิ่งที่จับต้องได้ทั้งหมด
  • physiology เป็นการทำงานของร่างกาย
  • pathology การเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่ทำให้เกิดโรค
  • phamacology เรื่องของยาหลักการ การออกฤทธิ์ กลไล ฯลฯ
ซึ่งแต่ละเรื่องก็จะแบ่งแยกไปตามระบบต่างๆของร่างกาย
  • basic sci เกี่ยวกับเชื้อโรค กลไกการเกิด
  • Integument  ระบบปกคลุมร่างกาย เช่น ผิว ผม เล็บ
  • locomotive ระบบเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว ได้แก่กระดูก กล้ามเนื้อ,,,,
  • cardiovascular ระบบหัวใจและหลอดเลือด
  • respi การหายใจ
  • gastro-intestinal ทางเดินอาหาร
  • KUB ทางเดินปัสสาวะ
  • reproductive การสืบพันธ์
  • neurology ระบบประสาท
ปี 4-5 จะเป็น clinical skill คือการเรียนรู้การทำงานจริง และการฝึกกับผู้ป่วยจริง
จะแบ่งออกเป็นแผนกต่างๆดังนั้น
  • OB-gyne สูติ-นรีเวช
  • surgery การผ่าตัด
  • internal medicine การรักษาโดยการใช้ยา
  • pediatric เด็ก
  • orthopedics กระดูกและข้อ
  • ophthalmology ตา
  • ENT หู คอ จมูก
  • Emergency ฉุกเฉิน
  • Anas ดมยาสลบ
  • commed-fammed การดูแลแบบองค์รวม การทำวิจัย
  • psychiatric จิตเวช
  • rehabilitation กายภาพบำบัด
             ปีที่ 6  เป็นการเริ่มทำงานจริง ภายใต้การควบคุมก็จะวนไปหลายหลายส่วนหลายๆโรงพยาบาล ทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด อาทิตย์ละ 7 วัน วันใหนอยู่เวรก็ต้องอยู่บนโรงบาล 24 ชั่วโมงวันรุ่งขึ้นก็ทำงานต่อ แต่เป็นชั้นปีที่สนุกที่สุดเพราะได้ลงมือปฏิบัติจริง 
             ซึ่งการเรียนตามหลักสูตรทั้งหมดนี้นอกจากจะต้องมีความถนัดทางด้านวิชาวิทยาศาสตร์ และต้องเรียนสาย  วิทย์ – คณิต ในชั้นมัธยมปลายแล้ว ยังต้องมีความชอบและสนใจในวิชาย่อยต่างๆด้วย เพราะเนื้อหาการเรียนค่อนข้างเยอะมีการท่องจำ ต้องมีวินัยและความขยันอย่างมากในการเรียน ซึ่งคุณหมอจะเรียนแพทย์ทั่วไป 6 ปี และ แยกเป็นแพทย์เฉพาะทางอีก 3 ปี 
เครื่องมือที่ใช้ในอาชีพ

              คุณหมอแต่ละคนจะมีเครื่องมือที่ใช้ในการรักษาโรคแตกต่างกันตามอาการของโรค แต่จะมีสเตตโตสโสป(Stethoscope) หรือ หูฟัง ที่มีไว้สำหรับฟังเสียงผิดปกติในร่างกาย โดยเฉพาะเสียงการเต้นของหัวใจพกไว้ เพื่อใช้ในการตรวจอากาศเบื้องต้นของโรค เป็นเครื่องมือเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของคุณหมอที่คุณหมอทุกคนจะขาดไม่ได้ 


อ้างอิง : http://www.a-chieve.org/information/detail/92

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น